ปัญหาฝุ่นละอองจิ๋ว อย่างฝุ่น PM 2.5 ยังไม่หายไปไหน ยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิต และบั่นทอนสุขภาพของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะกระตุ้นอาการภูมิแพ้อากาศ คัดจมูกไปจนปวดไมเกรน หรือผดผื่นคันเพราะปัญหาภูมิแพ้ผิวหนัง แล้วแบบนี้เราจะมีวิธีต่อสู่กับฝุ่น PM 2.5 ยังไง เพื่อไม่ให้สุขภาพพังซะก่อน มาฟังคำแนะนำจาก นพ.จิรวัฒน์ เชี่ยวเฉลิมศรี อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก รพ.พญาไท 2
“ฝุ่น PM 2.5 คือฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีอันตรายและมีผลกระทบต่อสุขภาพ เราสามารถพบฝุ่น PM 2.5 ได้ ในบรรยากาศทั่วไป โดยสามารถพบได้ทั้งภายนอกอาคารและภายในอาคาร โดยภายนอกอาคารพบได้จากการเผาไหม้ทางการเกษตร การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซลทั้งในยานพาหนะและอุตสาหกรรม ในอาคารอาจเกิดจากการทำอาหารที่มีการเผาไหม้ เช่น ปิ้งย่างด้วยเตาถ่าน แต่ถึงแม้จะไม่มีการกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ในอาคาร ด้วยขนาดของฝุ่น PM 2.5 ที่เล็กมาก จากงานวิจัยพบว่าสามารถลอดผ่านตามช่องประตู หน้าต่าง เข้ามาภายในอาคารได้”
1. สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปในฤดูหนาว : สภาพอากาศโดยทั่วไป พื้นโลกจะร้อนกว่าสภาพอากาศด้านบน ดังนั้นอากาศร้อนจะถูกยกตัวขึ้น และลมจะพัดมาแทนที่ก๊าซมลพิษ ทำให้มลพิษถูกพัดกระจายออกไป แต่ในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิที่พื้นดินจะต่ำ โดยสภาพอากาศด้านบนยังมีแสงอาทิตย์แผ่ลงมาเท่าเดิม ดังนั้นความหนาแน่นของอากาศจะมีมากกว่าด้านบน ทำให้อากาศไม่สามารถลอยขึ้นไปได้อย่างเต็มที่ ร่วมกับช่วงเวลากลางคืนอุณหภูมิลดลงทำให้ความชื้นกลั่นตัวเป็นหมอกมากดฝุ่นควันในอากาศไม่ให้ลอยขึ้นอีก ทำให้สภาพอากาศที่มีมลพิษนิ่งไม่ขยับในช่วงฤดูนี้ เรียกว่า “ลักษณะอากาศปิด”
2. มีการเพิ่มการกำเนิดของฝุ่น PM 2.5 : ในช่วงหน้าหนาวจะมีการเผาไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด เผาขยะ โดยเฉพาะภาคเหนือของประเทศไทย และประเทศรอบข้าง ร่วมกับการผลิตฝุ่น PM 2.5 ในเมืองต่อเนื่องจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซลเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะรถ หรือเครื่องยนต์ที่ไม่ได้มีการตรวจเช็กสม่ำเสมอ
ในบุคคลทั่วไปอาจมีอาการระคายเคืองโพรงจมูก มีจาม น้ำมูกใส ไอ หรือหายใจไม่สะดวก อาจมีตาแดง คันตา น้ำตาไหลผู้ป่วยกลุ่มโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ โรคหอบหืด หรือโรคปอดอื่นๆ จะพบว่ามีอาการกำเริบของโรคตั้งแต่คัดจมูกมาก มีน้ำมูกไหล ไอ หอบเหนื่อย หายใจเสียงหวีด บางรายอาจรุนแรงถึงระบบหายใจล้มเหลวได้ กลุ่มผู้ป่วยภูมิแพ้ผิวหนังจะมีอาการกำเริบของโรคคันมาก เกิดผื่นแดงตามผิวหนังคุมโรคไม่ได้
พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้มากๆ รับประทานผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ หลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากเป็นวันที่ค่าของฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ให้พิจารณามาออกกำลังกายภายในอาคารแทน ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท ป้องกันการเล็ดลอดของฝุ่นเข้ามาในอาคาร ในผู้ป่วยกลุ่มโรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ และหอบหืด ควรใช้ยาสูดทางปาก และยาพ่นจมูกต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ พิจารณาการล้างจมูกอาจช่วยลดทั้งฝุ่น PM 2.5 ในทางเดินหายใจส่วนบน และสารก่อภูมิแพ้ได้
แนะนำใช้เครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA (High efficiency particulate air) filter เพื่อช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ภายในอาคาร และควรพกหน้ากากประเภทที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ เช่น หน้ากาก N95 ที่ได้มาตรฐานติดตัว ศึกษาวิธีสวมใส่ที่ถูกต้อง และใช้ทุกครั้งที่มีความจำเป็นต้องออกภายนอกอาคาร
ในผู้ป่วยกลุ่มภูมิแพ้ผิวหนัง แนะนำใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายมิดชิด และหลังกลับเข้ามาภายในอาคารแนะนำเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ สระผมชำระล้างร่างกายที่อาจนำพาฝุ่นเข้ามาภายในอาคาร
บทความโดย : นพ.จิรวัฒน์ เชี่ยวเฉลิมศรี อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก โรงพยาบาลพญาไท 2
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :
New York City is a haven for food lovers, and when it comes to ice… Read More
Montenegro, a hidden gem nestled in the Balkans, offers travelers a captivating experience with its… Read More
Salads are a fantastic way to incorporate fresh and nutritious ingredients into our daily meals.… Read More
For fitness enthusiasts seeking to combine their love for travel and physical well-being, there… Read More
Edinburgh, the capital city of Scotland, is a captivating destination that offers a perfect blend… Read More
Starbucks has become a global phenomenon, captivating millions of coffee enthusiasts with its diverse menu… Read More