ทำความรู้จัก ไฮเปอร์โซนิกมิสไซล์ของรัสเซีย ยิงแล้วไม่ต้องสืบ!




ไฮเปอร์โซนิกมิสไซล์ คือขีปนาวุธในอนาคต ที่สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 10 มัค หรือความเร็วเป็น 10 เท่าของความเร็วเสียง สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ

1. Hypersonic Glide Vehicles (HGVs) เป็นจรวดที่ยิงนำส่งไปยังระดับความสูงมากๆ โดยจรวดและแล่นลงไปยังเป้าหมาย

2. Hypersonic Cruise Missiles (HCMs) เป็นจรวดที่ใช้เครื่องยนต์โดยใช้ความเร็วในการอัดอากาศและขับเคลื่อนเครื่องยนต์แบบ Scramjet เพื่อไต่ความเร็วให้ถึงระดับที่ต้องการและเคลื่อนที่ไปยังเป้าหมายโดยใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางการบินของอากาศยาน

เมื่อเปรียบเทียบกับขีปนาวุธพิสัยไกล (Ballistic Missiles) ที่มีลักษณะเป็นพาราโบลามากกว่า ส่วนไฮเปอร์โซนิกมิสไซล์มีการโคจรที่ต่ำกว่า จึงถูกตรวจจับได้ด้วยเรดาร์ภาคพื้นช้ากว่า และมีระยะประชิดเป้าหมายที่ใกล้กว่า ด้วยความสามารถในการเคลื่อนที่ไต่ระดับด้วยความเร็วสูงและหลบหลีกได้ ทำให้ไฮเปอร์โซนิกมิสไซล์มีขีดความสามารถในการอ้อมหลบหลีกระบบต่อต้านมิสไซล์ได้มากขึ้น

ปี ค.ศ. 2018 ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีจากอากาศสู่พื้นผิวชื่อว่า ‘Kinzhal’ ถูกทดสอบยิงจากเครื่องบินขับไล่แบบ MiG-31 ในระหว่างการซ้อมรบ โดยสามารถทำลายเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุว่า นักบินได้รับการฝึกฝนให้ออกบินทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกรุ่นนี้ในทุกสภาพภูมิอากาศ “อาวุธปล่อยนำวิถี Kinzhal เป็นยุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยเทคโนโลยีไฮเปอร์โซนิกที่ก้าวล้ำ เมื่อติดตั้งกับเครื่องบินรบ จะทำให้ ‘Kinzhal’ ทำงานได้อย่างทรงประสิทธิภาพ” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ

Kh-47M2 Kinzhal แปลตรงตัวว่า “กริช” เป็นขีปนาวุธอากาศสู่พื้นดินที่มีความเร็วเหนือเสียงของรัสเซีย มีพิสัยทำการไกลมากกว่า 2,000 กม. (1,200 ไมล์) ความเร็วมัค 10 และความสามารถในการหลบหลีกในทุกขั้นตอนของการบิน Kh-47M2 Kinzhal สามารถบรรทุกได้ทั้งหัวรบธรรมดาและหัวรบนิวเคลียร์ โดยบรรทุกและยิงจากเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-22M37 หรือเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นความเร็วสูง MiG-31K ถูกนำไปใช้ที่ฐานทัพอากาศในเขตทหารทางใต้ของรัสเซียและเขตการทหารตะวันตก Kinzhal เป็นหนึ่งในหกอาวุธทางยุทธศาสตร์ใหม่ที่เปิดเผยโดยประธานาธิบดี Vladimir Putin เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2018 มีรายงานว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกใช้ครั้งแรกในปี 2559 ระหว่างปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในซีเรีย

ขีปนาวุธดังกล่าวได้รับการออกแบบเพื่อโจมตีเรือรบของ NATO ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อระบบขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ในรัสเซียยุโรป และเพื่อทำลายระบบป้องกันขีปนาวุธของ NATO เรือรบที่ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ ฐานยิงต่อต้านขีปนาวุธและวัตถุบนบก ประจำการบริเวณพรมแดนรัสเซีย ออกแบบมาเพื่อเอาชนะระบบป้องกันภัยทางอากาศหรือขีปนาวุธของสหรัฐฯ เช่น MIM-104 Patriot, Terminal High Altitude Area Defense และระบบ Aegis Combat System โจมตีเป้าหมายที่อยู่นิ่งและเคลื่อนที่ได้ เช่น คลังอาวุธ บังเกอร์หรือศูนย์บัญชาการ เรือบรรทุกเครื่องบิน ภายในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากการยิง ขีปนาวุธ Kinzhal จะเร่งความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วเหนือเสียงกว่า 10 เท่า และทำการบินในลักษณะหลบเลี่ยงการตรวจจับเพื่อป้องกันขีปนาวุธของฝ่ายศัตรู

Kinzhal มีพิสัยทำการ 1,500-2,000 กม. ในขณะที่บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์หรือน้ำหนักบรรทุกดินระเบิดแรงสูง 480 กก. รายงานข่าวของ TASS ในเดือนกรกฎาคม 2018 บ่งชี้ว่า พิสัยของขีปนาวุธจะเพิ่มเกิน 3,000 กม. หากติดตั้งบนเครื่องบินทิ้งระเบิดตูโปเลฟ ตู-22 เอ็ม37 มันมีขนาดใกล้เคียงกับ OTK 9M723 Iskander-M7 7 Kinzhal มีความยาว 8 ม. เส้นผ่านศูนย์กลางลำตัว 1 ม. และน้ำหนักประมาณ 4,300 กก. อย่างไรก็ตาม มันมีลักษณะที่แตกต่างจากขีปนาวุธภาคพื้นดิน รวมถึงส่วนหางที่ออกแบบใหม่  หางเสือลดระดับ ส่วนท้ายของขีปนาวุธออกแบบมาเพื่อปกป้องเครื่องยนต์ระหว่างการเร่งความเร็วจนไปถึงความเร็ว 9 เท่า ของความเร็วเสียง

หลังจากทำการยิง Kinzhal จะเร่งความเร็วอย่างยิ่งยวดจนถึง Mach 4 (ประมาณ 4,900 km/h) และอาจเร่งถึงความเร็วสูงสุด Mach 10 (12,350 km/hr) ความเร็วนี้เมื่อรวมกับวิถีการบินที่ไม่แน่นอนของขีปนาวุธ ความคล่องแคล่วที่เหนือกว่าขีปนาวุธทุกแบบของฝั่งตะวันตก ช่วยขัดขวางการสกัดกั้นของขีปนาวุธนาโต้ที่ใช้ต่อต้านได้ (แม้จะพยายามโม้ว่า สามารถตรวจจับได้ก็ตาม) เป็นที่น่าสังเกตว่าการระบุให้ Kinzhal ของรัสเซียเป็นขีปนาวุธ “ไฮเปอร์โซนิก” นั้นค่อนข้างทำให้เข้าใจผิด เนื่องจากขีปนาวุธเกือบทั้งหมดนั้น มีความเร็วเหนือเสียงแทบทั้งสิ้น (เช่น เหนือกว่า 5 มัค) ในบางช่วงระหว่างการเร่งแบบยิ่งยวด

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2565 กระทรวงกลาโหมของรัสเซียอ้างว่า ได้ยิงขีปนาวุธ Kinzhal ไปที่คลังเก็บอาวุธรอบเมือง Deliatyn ทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน นับเป็นครั้งแรกที่โลกได้รับรู้ถึงการใช้อาวุธไฮเปอร์โซนิกในการสู้รบ ส่วนสหรัฐอเมริกาต้นตอของปัญหา รัสเซีย-ยูเครน ได้กล่าวอ้างว่า สามารถติดตามขีปนาวุธได้ “แบบเรียลไทม์” ระหว่างการบินเข้าหาเป้าหมาย ตามรายงานของ CNN สื่อกระแสหลักของฝั่งตะวันตกที่ทำข่าวเข้าข้างพญาอินทรีแบบออกหน้าออกตา.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

Share

Recent Posts

New York City’s Sweetest Ice Cream Shops To Check Out

New York City is a haven for food lovers, and when it comes to ice… Read More

11 months ago

Explore Montenegro, The Hidden Gem of the Balkans

Montenegro, a hidden gem nestled in the Balkans, offers travelers a captivating experience with its… Read More

11 months ago

Spice Up Your Salad Game With These Tips To Make Salads More Exciting

Salads are a fantastic way to incorporate fresh and nutritious ingredients into our daily meals.… Read More

11 months ago

The Best Travel Destinations For Fitness Enthusiasts

  For fitness enthusiasts seeking to combine their love for travel and physical well-being, there… Read More

12 months ago

What To Do On Your First Visit To Edinburgh

Edinburgh, the capital city of Scotland, is a captivating destination that offers a perfect blend… Read More

12 months ago

Which Are The Consistently Most Popular Starbucks Drinks?

Starbucks has become a global phenomenon, captivating millions of coffee enthusiasts with its diverse menu… Read More

12 months ago