SeaYouTomorrow Camp สร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงวันนี้ เพื่อทะเลวันพรุ่งนี้




เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นโจทย์สำคัญของโลก ดังที่เวทีการประชุม COP26 หรือการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 ที่กลาสโกลว์ ได้ระบุถึงวิกฤติสามอย่างที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ คือภาวะโลกร้อน การสูญพันธุ์ ปัญหามลพิษและขยะ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นข้อสอบให้ทุกคนต้องแก้ไข เพราะไม่มีใครเลยในโลกที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเหล่านี้

สิงห์ เอสเตท บริษัทมหาชนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ยึดหลักปรัชญาการเติบโตอย่างยั่งยืน รักษาความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งตระหนักถึงโจทย์สำคัญข้อนี้ จึงได้ร่วมกับศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย หรือ EEC (Environmental Education Centre) จัดกิจกรรม SeaYouTomorrowCamp: Fighting Climate Crisis “ค่ายผู้นำและเยาวชน รวมพลังต้านวิกฤติโลกร้อน’ ขึ้น ที่โรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ เกาะพีพี เมื่อวันที่ 14-16 ธันวาคม 2564

กิจกรรมนี้มีพนักงานระดับหัวหน้างานของสิงห์ เอสเตท 15 คน และเยาวชนในพื้นที่อีก 10 เข้าร่วมกิจกรรมในห้องเรียนธรรมชาติ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เห็นความเชื่อมโยงกันของระบบนิเวศ และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่สมดุล ซึ่งนำมาสู่ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และเพื่อพัฒนาผู้ร่วมแคมป์ให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงหรือ Change Agent โดยหัวหน้างานได้ใช้ความรู้ไปเป็นแนวทางในการทำงานตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งวิสัยทัศน์สู่ความยั่งยืน และส่งต่อแนวคิดไปยังเพื่อนพนักงาน ขณะที่เยาวชนซึ่งอยู่ในพื้นที่ก็ได้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรที่ชุมชนของตนมีอยู่ เกิดความภาคภูมิใจและอยากจะปกป้องทะเลและผืนป่าให้คงความสมบูรณ์เอาไว้จากวันนี้ไปถึงอนาคต

SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ

“SeaYouTomorrow หรือในชื่อไทยคือ ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ เกิดจากการที่สิงห์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทแม่ได้เน้นเรื่องความยั่งยืนเป็นหลัก และได้มุ่งทำเรื่องน้ำเพราะมีธุรกิจเกี่ยวกับน้ำ ขณะที่สิงห์ เอสเตท ซึ่งเป็นบริษัทลูก มีลักษณะธุรกิจที่มีพื้นที่อยู่ติดกับทะเล จึงได้ทำเรื่องทะเล โดยก่อนโควิด-19 ที่โรงแรมนี้มีลูกค้า 90 เปอร์เซ็นต์ตลอดปี คือประมาณ 127,000 คน หากดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและชุมชนไปด้วยจะสร้างผลกระทบเชิงบวกได้มหาศาล โครงการ SeaYouTomorrow จึงเกิดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้และมุ่งหวังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของภาคประชาชนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยการสร้างองค์ความรู้” ศิริธร ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการอันเป็นที่มาของค่ายนี้

นอกจากโรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ จะดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับธรรมชาติ และได้รับประกาศนียบัตรชดเชยคาร์บอน มีนโยบายการจัดการของเสียและขยะพลาสติก การบริหารจัดการน้ำและน้ำทิ้ง กระจายรายได้สู่ชุมชนด้วยการใช้เรือหางยาวหรือเรือท้องถิ่นเป็นเรือท่องเที่ยว ฯลฯ ยังได้ก่อตั้งศูนย์เรียนรู้ทางทะเล Marine Discovery Center ซึ่งได้รับอนุญาตให้เพาะพันธุ์และอนุบาลปลาการ์ตูนก่อนปล่อยคืนสู่ท้องทะเล และเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้อย่างไม่จำกัดเฉพาะแขกของโรงแรม มากไปกว่านั้นยังสามารถเดินเท้าไปเรียนรู้เรื่องป่าชายเลนซึ่งอยู่ติดกับโรงแรม และเป็นป่าชายเลนแห่งเดียวของเกาะพีพีอีกด้วย

เรียนรู้จากห้องเรียนธรรมชาติ

ด้วยภูมิทัศน์และความพร้อมของสถานที่ซึ่งสามารถสร้างการเรียนรู้ได้หลายกระบวนการ จึงเอื้อต่อการออกแบบกิจกรรม SeaYouTomorrowCamp โดยมีอเล็กซ์ เรนเดลล์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีอีซี เอชคิว จำกัด ผู้ก่อตั้งศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย (Environmental Education Centre หรือ EEC) และ น.สพ.ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ นักวิชาการคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานมูลนิธิโลกสีเขียว เป็นผู้ร่วมกันออกแบบค่ายและเป็นวิทยากร ให้สอดคล้องกับผู้ร่วมกิจกรรมทั้งสองกลุ่ม

โดยผู้ร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ในหัวข้อ ‘เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)’ เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change กระบวนการเกิดก๊าซเรือนกระจก เรียนรู้เรื่องกรีนและบลูคาร์บอน และคาร์บอนฟุตพรินต์ พร้อมทั้งออกสำรวจพื้นที่จริงเพื่อให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องของคาร์บอนในระบบนิเวศธรรมชาติกับ Climate Change ด้วยการวัดค่าน้ำทะเล การเก็บตัวอย่างดินในป่าชายเลนเพื่อศึกษาเรื่องกรีนและบลูคาร์บอนในระบบนิเวศ

ศูนย์เรียนรู้ทางทะเล Marine Discovery Center คือห้องเรียนที่ผู้ร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้เรื่องการสร้างความยั่งยืนท่ามกลางปัญหา Climate Change ปัญหาภัยคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพสัตว์ทะเล และทำกิจกรรม Info hunt บน worksheet เกี่ยวกับความหลากหลายของพันธุ์ปลาการ์ตูน ฟังการบรรยายจากวิทยากรเรื่องฉลามและอ่าวมาหยา ก่อนเดินทางไปสำรวจเส้นทางไปอ่าวโละลานะ เพื่อเรียนรู้เรื่องปัญหาขยะในทะเลและวิถีชีวิตของชาวเลในชุมชน และเชื่อมโยงเรื่องความยั่งยืนกับการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ รวมถึงสำรวจทรัพยากรทางทะเลที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ในเกาะไผ่ และการนำเสนอกิจกรรมจากผู้ร่วมกิจกรรม พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างผู้บริหาร และเยาวชนในชุมชนผู้เข้าอบรมในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นการปิดท้ายกิจกรรม

ส่งต่อแนวคิดรักษ์สิ่งแวดล้อม ผ่านการสร้าง Change Agent

กิจกรรมที่ EEC ออกแบบขึ้นสำหรับการจัดค่ายครั้งนี้ ไม่ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับกลุ่มผู้บริหารและเยาวชนแต่เพียงอย่างเดียว ศิริธร ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้กล่าวถึงความสำคัญของ SeaYouTomorrowCamp ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้ว่า “ต้องการสร้างความตระหนักรู้ และให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญว่าทุกสิ่งบนโลกนี้ล้วนเชื่อมโยงกันเป็นระบบนิเวศ และเกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ เพื่อนำความรู้ดังกล่าวไปต่อยอด สร้างความสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อม การนำความรู้ที่ได้รับจากในค่ายไปปฏิบัติจริง จะทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าใจว่าการดูแลสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องยาก และทำให้เกิดความภูมิใจใน ‘คุณค่า’ ที่สามารถสร้างได้จากตัวเอง และยังสามารถส่งต่อไปถึงคน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมรอบข้างได้อีกด้วย”

ด้าน น.สพ.ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ได้กล่าวถึงความสำคัญในการที่องค์กรธุรกิจให้ความสำคัญกับการแก้โจทย์ใหญ่ของโลกในเรื่องสิ่งแวดล้อมว่า “หลังจากการประชุม COP26 ทุกคนตื่นตัวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจ ค่าย SeaYouTomorrow เป็นตัวอย่างของเจตนารมณ์ที่องค์กรเลือกจะจุดประกายให้กับเด็กๆ ว่าเขาจะกลับไปทำอะไรได้บ้าง และผู้บริหารระดับสูงที่มีอำนาจในการตัดสินใจกำหนดทิศทางขององค์กรจะเอาอะไรไปปรับใช้กับงาน จากวันนี้ไปถึงอีกห้าปีสิบปี อย่างน้อยเรามีองค์กรที่แข็งแกร่งทั้งทรัพยากร บุคลากร และองค์ความรู้เพียงพอที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนไปด้วยกัน”

เช่นเดียวกับอเล็กซ์ เรนเดลล์ ซึ่งผ่านการออกแบบกิจกรรมของ EEC มามากกว่า 100 ค่าย ได้ให้มุมมองเรื่องการสร้างทัศนคติเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงว่า “เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงระยะยาวคือการเปลี่ยนแปลงที่ต้นเหตุ คือเปลี่ยนที่จิตใจ สิ่งแวดล้อมแก้ปัญหาได้ด้วยการเปลี่ยนมิติทางจิต สร้างกระบวนการให้เขามีความหวงแหน กล้าออกมาเผชิญหน้า กล้าออกมาปกป้อง และถ่ายทอดสู่สาธารณะ สิ่งที่เราต้องการคือการสร้างความสามารถในการเป็นตัวแทนมาพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม นำไปสู่ความสามารถในการจัดการเรื่องความยั่งยืนในอนาคต”

ค่ายเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นนโยบายที่สิงห์ เอสเตทตั้งใจจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานองค์กรในระดับต่างๆ ได้มีโอกาสเข้าร่วม รวมทั้งผลิตสื่อเผยแพร่ให้พนักงานที่ไม่มีโอกาสเข้าร่วมค่ายได้เรียนรู้เรื่องนี้ไปด้วยกัน เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงหัวใจการดำเนินธุรกิจขององค์กร ที่นอกจากกิจกรรมนี้แล้ว ยังดำเนินงานด้านความยั่งยืนในหลายมิติ อาทิ โครงการ Singha Estate Net Zero ลดขยะที่สร้างภาระให้แหล่งฝังกลบ (landfill) การเตรียมสร้างศูนย์เรียนรู้ทางทะเลที่เกาะสมุย ซึ่งสนับสนุนชุมชนให้สามารถดูแลทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นของตนได้ และการจับมือกับโครงการวน โดยทีพีบีไอ ร่วมกันจัดการขยะพลาสติกภายในพื้นที่ก่อสร้าง รวมทั้งการสนับสนุนเทศกาลหนังสั้น ‘โลกป่วย เราต้องเปลี่ยน’ Changing Climate, Changing Lives (CCCL) Film Festival ด้วยเชื่อว่าทุกคนคือพลังของอนาคต

Share

Recent Posts

New York City’s Sweetest Ice Cream Shops To Check Out

New York City is a haven for food lovers, and when it comes to ice… Read More

11 months ago

Explore Montenegro, The Hidden Gem of the Balkans

Montenegro, a hidden gem nestled in the Balkans, offers travelers a captivating experience with its… Read More

11 months ago

Spice Up Your Salad Game With These Tips To Make Salads More Exciting

Salads are a fantastic way to incorporate fresh and nutritious ingredients into our daily meals.… Read More

11 months ago

The Best Travel Destinations For Fitness Enthusiasts

  For fitness enthusiasts seeking to combine their love for travel and physical well-being, there… Read More

12 months ago

What To Do On Your First Visit To Edinburgh

Edinburgh, the capital city of Scotland, is a captivating destination that offers a perfect blend… Read More

12 months ago

Which Are The Consistently Most Popular Starbucks Drinks?

Starbucks has become a global phenomenon, captivating millions of coffee enthusiasts with its diverse menu… Read More

12 months ago