เนื่องจากกลิ่นตัวของคนเรามีบทบาทสำคัญในสถานการณ์ทางสังคมต่างๆมากมาย กลิ่นตัวถือว่ามีอิทธิพลต่อแรงดึงดูดของเราที่มีต่อคู่รัก สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ช่วยให้คนเราสรุปเกี่ยวกับ ความรู้สึกหรือความเจ็บป่วยของเพื่อนมนุษย์ได้ เพราะการไม่สามารถรับรู้กลิ่นตัวของตนเองและกลิ่นตัวของผู้อื่นอาจถือเป็นหนึ่งในความบกพร่องที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการรับกลิ่น
ทุกวันนี้การตรวจสอบสุขภาพของกลิ่นตัวดูจะมีการเปลี่ยนขั้นตอนที่ลำบากหรือเจ็บปวด และยังใช้กันในสถานประกอบการเฉพาะ ดังนั้น นักวิจัยจึงพยายามที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีพันธมิตรทีมวิจัยจาก 7 สถาบันในเยอรมนี อิสราเอล และฟินแลนด์ ได้ริเริ่มโครงการ “Smart Electronic Olfaction for Body Odor Diagnostics” หรือ “สเมลโลดี” (SMELLODI) เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบเซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หรือเรียกว่า “จมูกอิเล็กทรอนิกส์” ที่จะช่วยเหลือผู้คนในชีวิตประจำวันได้ โดยแยกแยะระหว่างกลิ่นตัวที่ดีต่อสุขภาพและกลิ่นที่เปลี่ยนแปลงไปอันเนื่องมาจากโรคภัย และส่งผ่านข้อมูลด้วยระบบดิจิทัล
ทีมวิจัยจึงมองว่าเทคโนโลยีที่คิดค้นและใส่ไว้ใน “สเมลโลดี” นั้น จะมีศักยภาพกลายเป็นเครื่องมือวินิจฉัยที่รวดเร็วทันที ไม่รุกรานร่างกาย แต่ละบุคคลจะใช้ทุกที่ทุกเวลา ช่วยอำนวยความสะดวกในงานด้านปลูกถ่ายและเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของการดมกลิ่น ในอนาคตก็อาจนำไปใช้กับบ้านอัจฉริยะยุคใหม่ เช่น ตู้เย็นที่คอยตรวจสอบคุณภาพอาหาร หรือปรับปรุงกระบวนการทางอุตสาหกรรม เช่น นำไปใช้กับหุ่นยนต์ตรวจจับการทำงานผิดปกติของโรงงานผลิต หรือช่วยด้านสิ่งแวดล้อมอย่างวัดแอมโมเนียในอากาศ.
Smellodi Project. Credit : Antonie Bierling, TUD