“THE RISE OF ASIAN” ความเลอค่าของศิลปะเอเชีย




ภูมิภาคเอเชียมีความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมที่งดงามและเก่าแก่ไม่แพ้อารยธรรมจากทวีปอื่นๆ โดยเฉพาะศิลปะของญี่ปุ่น อาทิ การพิมพ์ลายของบล็อกไม้ (wood block prints) ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาล ตลอดจนศิลปะแบบชวาที่มีอิทธิพลไปทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล้วนเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์คอลเลกชันสุดบรรเจิด “THE RISE OF ASIAN” ของแบรนด์ “SIRI VANNAVARI” และ “S’Hom me” สำหรับฤดู กาลสปริง-ซัม เมอร์ 2022

ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ SIRIVANNA VARI “สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” มีพระดำรัสว่า “สำหรับคอลเลกชันล่าสุดนี้ ข้าพเจ้าได้นำเอางานศิลปะและสัญลักษณ์ต่างๆที่โดดเด่นในภูมิภาคเอเชีย ผสมผสานกับเทคนิคการตัดเย็บแบบเซมิกูตูร์ (Semi Couture) และฟิวเจอริสติค (Futuristic) อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ มาผสมผสานกับรายละเอียดของศิลปะแบบเอเชีย เพื่อลุคโมเดิร์นที่โดดเด่นด้วยความสวยงามของผู้หญิง”

“เจ้าหญิงนักออกแบบ” ยังมีพระดำรัสอีกว่า “ศิลปะของเอเชียมีความสวยงามมาก ข้าพเจ้าจึงหยิบเอาสัญลักษณ์ที่โดดเด่นมาใช้ อาทิ เทคนิคการพับกระดาษออริกามิของญี่ปุ่น ที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดออกมาเป็นเสื้อเพ็บลั่ม (Peblum) ที่ตัดเย็บจากผ้า toile (โทวล์) ซึ่งทำให้รูปร่างของผู้สวมใส่ดูมีมิติขึ้นมาทันที หรือจะเป็นการนำเอาลายสัญลักษณ์นกกระเรียนของญี่ปุ่นมาปักลงบนเดรสผ้าบุหงาด้วยขนนก จึงทำให้ชุดเดรสนั้นดูโก้และเซ็กซี่มาก ไปจนถึงการนำเอาเทคนิคการสานลายดอกพิกุลแบบไทยมาดัดแปลงเป็นกระโปรงหนังสานลายดอกพิกุล ซึ่งเป็นการยกระดับศิลปะไทยให้ดูโมเดิร์นเข้ากับงานแฟชั่นช่วงซัมเมอร์เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังได้นำผ้าเดนิมมามัดย้อม เพื่อให้เกิดเป็นเอฟเฟกต์ลายท้องฟ้าอีกด้วย”

สำหรับคอลเลกชันเสื้อผ้าทรงออกแบบประจำฤดูกาล สปริง-ซัมเมอร์ 2022 ประกอบด้วยเสื้อผ้า 53 ลุค แบ่งเป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรีของ “SIRIVANNAVARI” 45 ลุค และเสื้อผ้าสุภาพบุรุษของ “S’Homme” 8 ลุค โดยดีเทลพิเศษยกให้งานปักชั้นเยี่ยมจาก “SIRIVANNAVARI Atelier and Academy” นำเสนองานปักหลากรูปแบบ อาทิ การปักลายปลาคาร์ปลงบนเสื้อแจ็กเกตผ้าไหมสีช็อกกิ้งพิงค์ลายมัวร์, การปักขนนกลายนกกระเรียนบนเสื้อทักซิโด้แจ็กเกต ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมสีทอง และการปักชุดเดรสผ้าบุหงาด้วยขนนกเป็นลายนกกระเรียน นอกจากนี้ เอกลักษณ์โดดเด่นต้องยกให้ลายพิมพ์ภาพกราฟิกฝีพระหัตถ์ขององค์ดีไซเนอร์ อาทิ ดอกเบญจมาศ (สื่อถึงความมั่งคั่ง), นกกระเรียน (สื่อถึงอายุยืน) และภาพหญิงสาว (สื่อถึงการเพิ่มอำนาจ) ประกอบเป็นภาพคอลลาจให้เป็นลายพิมพ์ประจำซีซันนี้ โดยเห็นได้จากชุดเดรสผ้าซาตินลายคอลลาจที่โดดเด่นด้วยการจับเดรปสามมิติช่วงสะโพก

นอกจากนี้ ยังทรงนำผ้าบาติกลาย ‘S’ Motif (เอส โมทีฟ) และลายผ้าบาติกแบบชวาทรงออกแบบมาตัดเย็บในคอลเลกชัน ตลอดจนสร้างสรรค์ลายพิมพ์ชื่อ “Horseshoe monogram” ลายโมโนแกรมประจำฤดูกาลที่คาดว่าจะฮอตระเบิดไปอีกหลายซีซัน.