เฮียเบคก็มา อย่างหล่อขอแต่งเพิ่ม! Maserati MC20 by David Beckham




ซุปเปอร์คาร์ Maserati MC20 Fuoriserie Edition for David Beckham เปรียบเสมือนจดหมายที่เฮียเบคได้บรรยายความประทับใจต่อเมือง ไมอามี สหรัฐอเมริกา ซึ่ง เบคแฮม แบรนด์แอมบาสเดอร์คนปัจจุบันของ Maserati ได้รับเชิญให้ทำงานร่วมกับทีมออกแบบ เพื่อมีส่วนร่วมในการรังสรรค์ซุปเปอร์คาร์ MC20 รุ่นพิเศษ แรงบันดาลใจจากความหลงใหลที่มีต่อ ไมอามี ซึ่งเป็นเสมือนบ้านหลังที่สอง ของนักฟุตบอลชื่อก้องโลก

“ผมเป็นคนที่คลั่งไคล้รถยนต์มาโดยตลอด” เบคแฮมกล่าว “เป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่ได้ร่วมงานกับทีม Maserati และนักออกแบบ เพื่อสร้างรถยนต์คันเดียวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านหลังที่สองของผม เมืองไมอามี และสโมสรฟุตบอลไมอามี กับความสุขที่ได้อยู่หลังพวงมาลัย MC20 ท่ามกลางชายหาดและถนนในเมืองที่สวยงาม”

MC20 Fuoriserie Edition for David Beckham คันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมตกแต่งพิเศษซึ่งมีชื่อเรียกว่า ‘Fuoriserie’ เปิดโอกาสให้ลูกค้า สามารถกำหนดรายละเอียดการตกแต่งในแบบเฉพาะตัว มีเอกลักษณ์และใช้งานออกแบบด้วยสไตล์ที่ชื่นชอบจากเจ้าของรถ เสมือนเป็นผืนผ้าใบสีขาว ที่พร้อมให้จรดปลายพู่กัน เพื่อรังสรรค์ยนตรกรรมอิตาเลียนสุดคลาสสิก สะท้อนตัวตนของผู้ครอบครองได้ดีที่สุด

ทีมนักออกแบบจาก Maserati Centro Stile และ เดวิด เบคแฮม ผสมผสานไอเดียบรรเจิดในงานดีไซน์ชิ้นส่วนต่างๆ เกิดเป็น MC20 Fuoriserie Edition for David Beckham โครงสร้างตัวถังผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ตัวเล็กที่แรงติดอันดับโลก เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่แบบ วี 6 สูบ เทคโนโลยีรถแข่งฟอร์มูลาวัน ทุกชิ้นส่วนของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ผลิตโดย Maserati ทั้งหมด

MC20 Fuoriserie Edition for David Beckham ใช้สีดำและชมพู ตัดกันอย่างลงตัว สะท้อนมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลของเมืองไมอามี เป็นสีที่ใช้กับชุดของทีมฟุตบอลสโมสรในสหรัฐอเมริกาที่ เบคแฮม สังกัด ตัวถังสีดำเงา พร้อมสัญลักษณ์ตรีศูลบริเวณกระจังหน้าและเสาซีสีดำด้าน ตัดกันกับโลโก้ MC20 บริเวณประตูและคาลิปเปอร์เบรกสีชมพู ห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังแท้และอัลคันทารา ตัดกับตะเข็บสีชมพู หมอนรองศีรษะปักโลโก้สามมิติเป็นสีชมพู คอนโซลกลางติดเพลตพิเศษ ระบุอักษรสีชมพู ‘Maserati Fuoriserie’ และด้านล่างมีคำว่า ‘For David’ มีลักษณะแวววาวคล้ายงานโลหะพวกอะลูมิเนียม

ไมอามี เปรียบเสมือนดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ ด้วยความงดงามของอาทิตย์อัสดงและสีสันเจิดจรัสยามค่ำคืน ซึ่ง MC20 ของ เดวิด เบคแฮม สามารถสะท้อนจุดเด่นเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีชมพู ที่ชวนให้นึกถึงแสงสุดท้ายเมื่อดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า และสีดำเงาที่สะท้อนถึงความลึกลับน่าพิศวงยามค่ำคืน ซี่งทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่แสดงถึงตัวตนของผู้ครอบครอง โดยมีเจ้าของรถเป็นผู้กำหนด

ซุปเปอร์คาร์รุ่น MC20 หลอมรวมความหรู ความสปอร์ต และสมรรถนะ ตามแบบฉบับของรถสปอร์ตเครื่องวางกลางจากค่ายตรีศูล เปิดตัวบนเวทีโลกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 ภายใต้ชื่องาน MMXX: Time to be audacious Maserati MC20 เป็นซุปเปอร์คาร์ที่คลอดตามหลัง MC12 รถถนนและรถแข่งที่ผลิตเพียงน้อยนิดและถูกจับจองโดยอภิมหาเศรษฐีจนหมดหลังจากเปิดตัว อักษร MC ย่อจาก Maserati Corse ขณะที่ตัวเลข 20 มาจากปีที่เปิดตัว (2020) ทำให้รถรุ่นใหม่ เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของแบรนด์ นี่คือ รถสปอร์ตเครื่องวางกลางลำที่มีดีไซน์ดุดัน ผสมผสานกันระหว่างงานออกแบบรถซุปเปอร์คาร์ที่มีรูปทรงโฉบเฉี่ยว พร้อมความสามารถในการทำความเร็วของรถแข่ง MC20 ใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีความจุลดลง เพื่อตัวเลขการปล่อย CO2 ที่ถูกกดให้ต่ำลงเรื่อยๆ ตามกฎของ EU

น้ำหนักตัวรถทั้งคันมีพิกัดที่ต่ำกว่า 1,500 กก. ทำให้ MC20 เป็นซุปเปอร์คาร์ที่เบามาก ขณะที่เครื่องยนต์มีพละกำลังมากถึง 630 แรงม้า ส่งผลให้อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยมที่ 2.33 กิโลกรัมต่อ 1 แรงม้า ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถสปอร์ตกลุ่มเดียวกัน ความได้เปรียบด้านน้ำหนัก เกิดจากการเลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แมกนีเซียม อะลูมิเนียมและพลาสติก โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบาย

เครื่องยนต์เบนซิน Nettuno V6 สูบ กำลังมหาศาลมากถึง 630 แรงม้า แรงบิด 730 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 325 กม./ชม. นับเป็นเครื่องยนต์ที่ Maserati วิจัย พัฒนา และลงมือผลิตด้วยตัวเอง หลังจากหยุดสายการผลิตในโรงงานประกอบเครื่องยนต์นาน 20 ปี 

Nettuno เป็นเครื่องยนต์บล็อกแรกของยุคใหม่ที่ผลิตโดยค่ายตรีศูล เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ ทวินเทอร์โบ เทคโนโลยีใหม่ ได้รับสิทธิบัตรจากสถาบันนานาชาติ เรียกว่า MTC (Maserati Twin Combustion) ซึ่งเป็นระบบสันดาปภายในอันล้ำสมัย ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาโดย Maserati

โปรเจกต์วิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์แบบใหม่ที่เล็กลงแต่มีกำลังมากยิ่งขึ้น ติดตั้งอยู่ในซุปเปอร์คาร์สไตล์อิตาเลียน MC20 ผ่านการออกแบที่เมืองโมเดนา ผลิตที่โรงงาน Viale Ciro Menotti ที่ผลิตรถยนต์ Maserati มาอย่างต่อเนื่องกว่า 80 ปี บนสายพานการผลิตที่สร้างขึ้นใหม่ แทนที่ของเดิมที่เคยใช้ผลิตรุ่น Gran Turismo และ Gran Cabrio ที่สิ้นสุดลงช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว รวมถึงมีห้องพ่นสีใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่เครื่องยนต์ Nettuno จะถูกประกอบขึ้นภายใน Maserati Engine Lab ที่เมืองโมเดนา

Maserati MC20 รุ่นนี้น่าจะเป็นรถที่มีความสดใหม่มากที่สุดในกลุ่มซุปเปอร์คาร์เครื่องวางกลางสายพันธุ์อิตาเลียนรูปลักษณ์ลงตัวสมส่วนดูสวยและดุดัน สีตัวถัง Bianco Audace กับงานแอโรไดนามิกส์ที่โฉบเฉี่ยว สีตัวถังซึ่งเป็นสีเดียวกับที่เห็นเมื่อเป็นรถต้นแบบ MC20 มาพร้อมชุดล้ออัลลอย Birdcage ขนาด 20 นิ้ว และที่ซ่อนอยู่หลังล้อนั้นคือพลังหยุดยั้งฝูงม้ากว่า 630 ตัว ด้วยคาลิปเปอร์เบรก Brembo สีน้ำเงินแบบหน้า 6 หลัง 4 พอต เปลือกตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งมีการเพิ่มครีบรีดอากาศ splitters และ diffusers รวมถึงปลายท่อไอเสียรมดำ

ภายในของมันมีออปชั่นทางเลือก ซึ่งครอบคลุมเบาะนั่งที่ใช้หนังแท้สีทูโทนสีดำสลับสีครีมคาราเมล ชิ้นส่วนของหนังที่อยู่เหนือแผงหน้าปัดเป็นสีคาราเมล นอกจากนี้ยังมีชุดแต่งภายในด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ เพิ่มแป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนไฟเบอร์ ขอบประตูคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยแบบสปอร์ต เบาะนั่งคู่หน้ามีอุปกรณ์อุ่นเบาะ MC20 ผ่านการออกแบบให้รองรับทั้งตัวถังคูเป้, เปิดประทุน และเวอร์ชันที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนเมื่ออยู่ในห้องโดยสาร ผู้ขับเป็นเสมือนจุดศูนย์กลาง ไม่มีสิ่งใดมารบกวนการควบคุมขณะทำความเร็ว

อุปกรณ์ทุกชิ้นผ่านการออกแบบและติดตั้งอย่างมีจุดประสงค์ เน้นดีไซน์เรียบง่าย ไร้สันคม เพื่อไม่ให้รบกวนสมาธิผู้ขับ ติดตั้งจออเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว บริเวณเรือนไมล์ และอีกตัวบริเวณกลางแดชบอร์ดสำหรับระบบ Maserati Touch Control Plus (MTC Plus MIA) ขณะที่คอนโซลกลางตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ก็ดูเรียบง่าย พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่จำเป็น อาทิ จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ปุ่มปรับ 5 โหมดการขับ (GT, Wet, Sport, Corsa และ ESC Off ที่ตัดการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพ), 2 ปุ่มเลือกความเร็วในการขับ, ปุ่มปรับกระจกไฟฟ้า และปุ่มควบคุม Multimedia System รวมถึงมีช่องเก็บของบริเวณใต้ที่พักแขน ส่วนปุ่มควบคุมอื่นๆ ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัย ขนาบข้างด้วยปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ทางซ้าย และปุ่ม launch control ทางขวา

Maserati MC20 เชื่อมต่อออนไลน์กับโปรแกรม Maserati Connect รองรับการใช้งานระบบนำทาง, Alexa และ ไวไฟ ฮอตสปอต โดยสามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Maserati Connect บนสมาร์ทโฟนหรือสมาร์ทวอตช์ ระบบเสียงจาก Sonus Faber ผู้ผลิตลำโพงชั้นนำจากอิตาลี ร่วมมือกับแบรนด์ Maserati ในการร่วมพัฒนาระบบเสียงในรถยนต์ซุปเปอร์คาร์รุ่นใหม่ Maserati MC20 ระบบเสียงดังกล่าวมีกำลังขับรวม 695 วัตต์ จากภาคขยาย 12 แชนเนล การจัดวางลำโพง 12 ชุด โดยแบ่งเป็นทวิตเตอร์โดมผ้าไหม และมิดเรนจ์อย่างละ 5 ตัว ลำโพงวูฟเฟอร์กำลังขับ 60 วัตต์อีก 2 ตัว

รูปลักษณ์ของ MC20 ถูกออกแบบให้สะท้อนถึงตัวตนและประวัติศาสตร์ของแบรนด์ หลอมรวมความงามสง่า สมรรถนะ และความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว ขณะที่การให้ความสำคัญกับสมรรถนะ ส่งผลให้รถมีบุคลิกโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ขณะที่ประตูเปิดขึ้นแบบปีกผีเสื้อ ไม่เพียงงดงาม แต่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่น สามารถเข้า-ออกห้องโดยสารได้อย่างสะดวก ระบบช่วยขับที่ทันสมัย เช่น ระบบตรวจสอบจุดบอด พร้อมการแจ้งเตือนการจราจร ระบบรักษาเสถียรภาพแบบแอกทีฟ เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตพร้อมชุดยกความสูงเพื่อไม่ให้ด้านหน้าครูดเมื่อต้องขับไหลขึ้นไปบนอาคารจอดรถที่มีพื้นผิวต่างระดับที่ไม่เหมาะกับซุปเปอร์คาร์ MC20 ต่ำจนแทบจะกองอยู่กับพื้น จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เพิ่มความสูงเพื่อป้องกันชิ้นส่วนด้านหน้าเสียหาย สำหรับระบบอากาศพลศาสตร์ผ่านการออกแบบและปรับแต่งในอุโมงค์ลมที่ Dallara Wind Tunnel โดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 2,000 ชั่วโมง และการทดสอบ CFD (Computational Fluid Dynamics) กว่า 1,000 ครั้ง ผลลัพธ์จากการออกแบบรูปทรงที่น่าประทับใจ เส้นสายตัวถังพลิ้วไหว ดูเรียบง่ายสะอาดตา โดยมีเพียงสปอยเลอร์หลังขนาดพอเหมาะ ที่ช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความงดงาม มาพร้อมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำกว่า 0.38

TECHNICAL SPECIFICATIONS

Engine Layout V6 90° MTC Twin Turbo
Displacement (cc) 3,000 (cc) or 3.0L
Bore x stroke (mm) 88 x 82
Compression ratio 11:1
Max. power output (hp @ rpm) 630 CV or 620 hp @7,500 rpm
Peak torque (Nm @ rpm) 730 Nm @3,000-5,500 rpm
Ignition system MTC (Maserati twin combustion) Twin spark with passive pre chamber
Fuel System PDI (Direct Injection 350 bar + Port Injection 6 bar)
Induction Twin Side Turbo with electronic actuated Waste Gate
Lubrication Fully variable Oil pump on Dry sump system with scavenge pumps & external oil tank
Timing system Double Over Head Camshaft with variable valve timing
PERFORMANCE 0-100 km/h (s) Less than 2.9 sec
0-200 Km/h (s) Less than 8.8 sec
Top speed (km/h) More than 325 km/h

Braking distance:

From 100 to 0 km/h (m) Less than 33 metres
CX Less than 0.38
FUEL CONSUMPTION AND CO2 EMISSIONS WLTP combined cycle (l/100 km)
On going homologation
Gear ratios:
On going homologation
Transmission
Rear-wheel drive with rear limited slip self-locking mechanical differential (Electronic differential opt)

SUSPENSION
Front Double-wishbone with virtual steering axle, anti-roll bar (Lifter opt)
Rear Double-wishbone with virtual steering axle, anti-roll bar

BRAKES
Front Ventilated discs 380×34 mm (CCM disc 390×36 opt) Brembo fixed calipers 6 pistons
Rear Ventilated discs 350×27 mm (CCM disc 360×28 opt) 4 pistons

DIMENSIONS AND WEIGHTS
Front/rear tyres
front 245/35 ZR 20 / rear 305/30 ZR 20
L x D x H 4,669 mm x 1,965 mm x 1,224 mm
Wheelbase (m) 2.7
Front/rear track 1,681 mm / 1,649 mm
Luggage capacity (l) 148 (47 front / 101 rear)
Fuel tank capacity (l) 60
Homologated weight
Less than 1,500 kg.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/