ผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น และผู้ใหญ่ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และต้องเฝ้าระวังอะไรบ้าง เป็นข้อสงสัยที่เกิดขึ้นท่ามกลางตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องจนแตะหลักหมื่นรายทุกวัน
ในจำนวนนี้มีเด็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงเร่งทยอยฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับประชาชนเกือบทุกกลุ่ม เริ่มตั้งแต่กลุ่มเด็กเล็กอายุ 5-11 ปี เด็กวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี และผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนในแต่ละวัยจะมีอาการเหมือนหรือแตกต่างกัน และต้องเฝ้าระวังอาการอะไรบ้าง มีคำตอบดังนี้
ผลข้างเคียงวัคซีนไฟเซอร์เด็ก อายุ 5-11 ปี
- เจ็บในตำแหน่งที่ฉีด
- อ่อนเพลีย
- ปวดศีรษะ
อาการที่ต้องเฝ้าระวัง
- อาการแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก
- หอบ เหนื่อยง่าย
- ใจสั่น
- ไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
- ปวดหัวรุนแรง อาเจียนทานอาหารไม่ได้
- หมดสติ เป็นลม รู้สึกอ่อนเพลียผิดปกติ
หลังฉีดวัคซีน 1 สัปดาห์ ผู้ปกครองควรดูแลไม่ให้บุตรหลานออกกำลังกาย ปีนป่าย ว่ายน้ำ หรือกิจกรรมที่ใช้แรงมาก เป็นระยะเวลา 7 วัน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนหากเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และหากเกิดอาการต้องเฝ้าระวังหลังรับวัคซีน ควรพบแพทย์ทันที หรือโทร.1669 เพื่อรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน
ผลข้างเคียงวัคซีนไฟเซอร์เด็กวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี
- เจ็บบริเวณที่ฉีด
- อ่อนเพลีย
- ปวดศีรษะ
- มีไข้ หนาวสั่น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
อาการที่ต้องเฝ้าระวัง
สำหรับวัคซีนไฟเซอร์เด็กวัยรุ่น 12-17 ปี อาจมีความเสี่ยงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะก่อให้เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักพบในเด็กผู้ชายหลังฉีดเข็ม 2 ไปแล้ว โดยอาการเบื้องต้นที่แสดง ได้แก่
- หัวใจเต้นแรง
- เจ็บหน้าอก
แต่มักหายไปเองภายในไม่กี่วัน โดยสถิติที่บันทึกเอาไว้ในประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่าจากจำนวนเด็กอายุ 12-17 ปี จำนวน 1 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์มีเพียง 60 คนเท่านั้นที่เจอผลข้างเคียงนี้
ผลข้างเคียงวัคซีนไฟเซอร์ผู้ใหญ่ อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ปวด บวม แดง คัน หรือช้ำในจุดที่ฉีด
- มีไข้ หนาวสั่น
- อ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัว
- ปวดศีรษะ
- ปวดเมื่อยตามข้อ และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องเสีย
อาการที่ต้องระวัง
- มีผื่นขึ้นตามตัว
- มีอาการคัน บวม ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะใบหน้า ลิ้น และลำคอ
- เวียนศีรษะมาก
- หายใจลำบาก
ทั้งนี้ผู้ที่ฉีดวัคซีนทุกช่วงวัย ควรนั่งพักสังเกตอาการ 30 นาทีแรกหลังฉีดทันที และควรติดตามอาการอย่างต่อเนื่องอีก 30 วัน หากพบอาการที่ต้องเฝ้าระวังควรพบแพทย์ทันที
นอกจากนี้ภายใน 7 วัน หลังจากฉีดวัคซีนควรงดการออกกำลังกายหนักๆ เพราะจะทำให้หัวใจต้องทำงานเพิ่มขึ้น และความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกาย อาจทำให้เกิดความกังวลและไม่แน่ใจว่าเป็นอาการที่เป็นผลข้างเคียงจากวัคซีนหรือไม่ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยรุ่นที่พ่อแม่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวัยที่ชอบวิ่งเล่น ปีนป่าย และมักทำกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ จึงไม่ทันได้ระวังหรือสังเกตอาการตนเองเหมือนผู้ใหญ่
ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข, กรมควบคุมโรค