เคล็ดลับการทำอาหารไทยร้าน วารุตตี้ โบทานิก้า คาเฟ่




แต่ละบ้านล้วนมีสูตรเคล็ดลับการทำอาหารที่อาจจะแตกต่างกันตามรสนิยมความชื่นชอบ เหมือนบ้านของ คุณหนุ่ม-วารุสม์ วาสนะโชติ นักธุรกิจเจ้าของร้านจิวเวลรี่ วารุตตี้ จิวเวลรี่ (Warutti The Art of Jewelry) ที่ตั้งอยู่ใกล้ ออเธอร์ เลานจ์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ซึ่งเป็นนักชิมและทำอาหารด้วยเช่นกัน ได้เผยเคล็ดลับในการทำอาหารไทยที่ได้มาจากบรรพบุรุษว่า คุณยายและคุณแม่เป็นคนชอบทำอาหาร ตอนเด็กๆ ตนจึงถูกดึงมาเป็นลูกมืออยู่ในครัว เป็นมือตำน้ำพริกของที่บ้าน การทำอาหารของที่บ้านชอบทำอะไรชิ้นใหญ่ๆ หนาสะใจ ไม่ว่าจะเป็นทอดมัน หรือชุดน้ำพริกชะอมทอด ต้องหนาฟูน่ากิน จะรู้สึกหงุดหงิดมากเมื่อเจอทอดแบบแบนๆบางๆ ด้วยความที่มีสูตรความอร่อยเลยทำให้มาเปิดร้านอาหาร วารุตตี้ โบทานิก้า คาเฟ่ (Warutti Botanica Cafe)

“ร้านนี้เปิดมาปีกว่าช่วงโควิด ซึ่งร้านอื่นเขาปิด แต่เรามาเปิดเพราะรู้สึกว่าบริเวณที่ตั้งของร้านที่ตั้งอยู่ซอยเจริญกรุง 38 บางรัก ใกล้โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ใกล้ร้านเพชรที่ทำอยู่ สามารถเดินไปดูแลได้สะดวกและบริเวณนี้เป็นแหล่งนักท่องเที่ยวที่ใกล้โรงแรมระดับห้าดาว และมีออฟฟิศเยอะ ในช่วงโควิดเรามีพนักงานออฟฟิศสั่งดีลิเวอรีไปทานกัน โดยโทร.สั่งได้ที่ 09-6926-6365 แต่ที่สำคัญที่เลือกทำร้านอาหาร เพราะตั้งใจเปิดสำหรับเพื่อนๆ สำหรับลูกค้ามากกว่า คอนเซปต์ของร้านจึงเป็นการมาทานข้าวบ้านเพื่อน การทำการเลือกวัตถุดิบ จึงเหมือนทำกินเอง คัดสรรอย่าง ดีครับ เมนูที่ร้านก็เป็นเมนูที่เราแกะสูตรจากคุณยาย มีเมนูเด็ดอย่าง น้ำพริกปลาทู ผัดสะตอหมูกรอบ กุ้งแม่น้ำทอดซอสไข่เค็ม”

พร้อมกันนี้ คุณหนุ่ม ได้แชร์การทำอาหารไทยแบบบ้านของตนเองว่า การทำผัดสะตอหมูกรอบของที่บ้าน จะแตกต่างจากที่อื่น ตรงที่เราเอาน้ำพริกเหมือนน้ำพริกกะปิมาผัด แล้วใส่น้ำมะขามเปียกเพื่อเพิ่มความเข้มข้นในส่วนของเมนูกุ้งแม่น้ำทอดซอสไข่เค็ม ของที่ร้านก็จะแห้งไม่เป็นน้ำ ตัวน้ำซอสจะติดไปกับตัวกุ้ง โดยจะผัดซอสไข่เค็มก่อน จากนั้นทอดกุ้งแม่น้ำตัวเล็กแล้วเอาซอสมาทอดเคลือบอีกที จึงทำให้แห้งไม่เป็นน้ำ

นอกจากนี้ยังเผยเคล็ดลับการทำอาหารอีกว่า การทำอาหารไทย บางคนคิดว่าการใส่ซอสปรุงรส หรือน้ำมันหอยในทุกเมนูที่ทำ ทำให้รสชาติกลมกล่อม ซึ่งก็จริงอยู่ แต่ขณะเดียวกันน้ำมันหอยจะมีรสชาติหวานขึ้น อาจทำให้อาหารทุกจานมีรสชาติเดียวกันไปหมด ในความเป็นจริงการทำอาหารแต่ละจาน มันมีรสชาติของมันเองในตัว เช่น ผัดสะตอ ผัดกะเพราใส่น้ำมันหอย เป็นต้น ส่วนผัดผักใส่น้ำมันหอยได้ เพราะน้ำมันหอยมีความหนืด ทำให้น้ำมันหอยไปเคลือบตัวผัก ทำให้ได้รสชาติอยู่ที่บนตัวผัก ไม่ใช่รสชาติอยู่ที่น้ำ แต่ผัดกะเพรา รสชาติเข้าไปในเนื้อ เพราะเนื้อมีโพรงที่จะซึมซับรสชาติได้ ในขณะที่ตัวผักสด ไม่มีตัวพรุน ที่ซึมรสชาติ มันต้องเคลือบอย่างซอสน้ำมันหอยที่มีความหนืด…แค่รู้ทริคเล็กๆน้อยๆอาหารก็จะอร่อยโดนใจได้ไม่ยาก!!