วิธีขับรถเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุในช่วงหน้าฝน




สำหรับนักขับที่ต้องการหลีกเลี่ยงจากอุบัติเหตุในช่วงหน้าฝนก็ต้องพึ่งทั้งฝีมือและความพร้อมของรถ มีคำถามว่า จะต้องลดความเร็วลงมาขนาดไหน เมื่อขับรถแล้วเจอกับฝนตกถนนลื่น ตามหลักการทั่วไป ควรลดความเร็วลงมาเหลือ 2 ใน 3 ของการขับบนถนนแห้ง การลดความเร็วให้มีความเหมาะสม ยางจะจับกับผิวถนนได้ดีขึ้น การลดความเร็วยังทำให้มีเวลามากพอที่จะแก้ปัญหา หรือหลีกเลี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นตรงหน้า นอกจากนั้นยังช่วยลดอาการเหินน้ำ หรืออาการที่ยางวิ่งอยู่บนน้ำแล้วไม่ได้ยึดกับผิวถนน ซึ่งตามมาด้วยอาการลื่นไถล ถ้ามาเร็วก็ยากที่จะแก้ไข มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมายจากการใช้ความเร็วในขณะที่ฝนกำลังตก เมื่อใดก็ตามที่รถของคุณเกิดอาการเหินน้ำ คุณจะไม่สามารถควบคุมทิศทางได้อีกต่อไป  

ถ้าวิ่งมาดีๆ แล้วเจอเข้ากับแอ่งน้ำที่ขังอยู่บนผิวถนนจนทำให้รถเกิดอาการเหินน้ำ หรือลื่นไถล ก็ไม่ต้องตกใจ พูดได้ง่ายแต่ทำยาก เพราะอาการลื่นไถลอย่างรุนแรงทำให้คนขับตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ห้ามเหยียบเบรกอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้ล้อหยุดหมุนอย่างรวดเร็ว รถอาจลื่นไถลหนักขึ้น หรือหมุนจนยากต่อการแก้สถานการณ์ ให้ถอนเท้าออกจากคันเร่ง ประคองพวงมาลัยให้ความเร็วค่อยๆ ลดลงอย่างนุ่มนวล ลดความเร็วแบบค่อยเป็นค่อยไป แล้วค่อยเหยียบเบรก ทั้งนี้เพื่อรักษาระดับการยึดเกาะของยางกับถนนให้คงที่ แต่ถ้าพยายามขับให้ช้าลงตั้งแต่แรกเมื่อฝนตก อาการดังกล่าวก็เกิดขึ้นได้น้อย เพราะไม่ได้ใช้ความเร็วจนเกิดอาการเหินน้ำ สำหรับความเร็วที่เหมาะสมขณะฝนตกหนักและมีแอ่งน้ำขัง ไม่ควรขับเร็วเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับรถที่มียางอยู่ในสภาพสมบูรณ์ 

เมื่อรถช้าลง ยางจะเริ่มกลับมาเกาะถนนอีกครั้ง คุณก็จะสามารถควบคุมทิศทางรถได้ตามที่ใจต้องการ ตามทฤษฎีแล้ว ถ้าขับด้วยความเร็ว 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนหนึ่งของยางยังคงเกาะกับผิวถนน แต่ถ้าใช้ความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ยางก็จะไม่ยึดเกาะกับผิวถนน และทำให้เกิดการลอยตัว หรืออาการเหินน้ำเมื่อขับผ่านแอ่งน้ำขังบนถนน ถ้าเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังอย่าง BMW Z4 ที่เคยเกิดอุบัติเหตุขณะฝนตก จากการใช้ความเร็วสูงจนกลายเป็นข่าวดัง เมื่อใช้ความเร็วเกินกว่า 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งผ่านแอ่งน้ำที่อยู่บนผิวถนน ล้อหน้าของ Z4 อาจหยุดหมุน หรือไม่ยึดเกาะกับผิวถนนอีกต่อไป เนื่องจากลอยอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งตามมาด้วยอาการเสียการควบคุมอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนยากที่จะแก้ไขให้กลับมาอยู่ในเส้นทางเหมือนเดิม นอกจากนี้ในรถที่บรรทุกน้ำหนักมาเยอะ พวกรถกระบะต่างๆ จะต้องมีการเฉลี่ยน้ำหนักบรรทุกให้เหมาะสมก่อนออกเดินทางในช่วงหน้าฝน ยางต้องอยู่ในสภาพดี รวมถึงระบบเบรกและใบปัดน้ำฝนกับระบบส่องสว่างที่ต้องทำงานเต็มระบบ เมื่อเจอเข้ากับพายุฝนลมแรง ฝนตกหนักจนมองเส้นทางข้างหน้าแทบไม่เห็น ให้หาที่จอดโดยออกไปให้ห่างจากไหล่ทาง หรือแวะเข้าปั๊มน้ำมันจะปลอดภัยมากกว่าการจอดอยู่บนไหล่ทางซึ่งอันตรายมาก ไม่เปิดไฟขอทางหากกำลังขับเคลื่อน ไฟขอทางทำให้รถคันอื่นเกิดความสับสนได้ โดยเฉพาะบริเวณทางแยก 

เมื่อฝนตก ควรทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้า เนื่องจากฝนจะทำให้ถนนลื่นขึ้น รถใช้ระยะเบรกเพิ่มขึ้น เมื่อลดความเร็วแล้วทิ้งระยะห่างให้มีความปลอดภัยมากพอ ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุชนท้ายรถคันข้างหน้าเพราะเบรกแล้วลื่นไถล การทิ้งระยะห่างยังช่วยทำให้คุณสามารถหลบเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นตรงหน้า มีระยะเวลาและพื้นที่ข้างหน้ามากพอในการที่จะเบรก หรือหลบ ฟิล์มกรองแสงที่กระจกหน้าที่ทึบ หรือเข้ม ยิ่งทำให้การมองเห็นย่ำแย่ลงมากเมื่อฝนตก โดยเฉพาะฝนตกตอนก่อนพลบค่ำที่จะทำให้การมองเลวร้ายลงจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการมองไม่เห็น ไม่ควรติดฟิล์มที่กระจกบังลมบานหน้า ถ้าจะทำให้การมองอยู่ในทัศนวิสัยที่สามารถมองเห็นได้ กระจกบังลมบานหน้าก็ไม่ควรจะมีสิ่งที่เกือบจะทึบแสงมาปิดบังเอาไว้ ต่อให้ฟิล์มที่มีคุณภาพดีก็ยังทำให้การมองเห็นของคุณเมื่อฝนตกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 

ข้อเตือนใจ 
เตรียมรับสถานการณ์ล่วงหน้าเมื่อต้องขับรถท่ามกลางสายฝน ด้วยการตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ยาง ใบปัดน้ำฝน เบรก ระบบส่องสว่าง แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือและเบอร์โทรฉุกเฉินเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

อย่าลดแรงดันลมยาง เนื่องจากต้องการให้ยางยึดเกาะกับถนน การกระทำดังกล่าวไม่ได้ทำให้ยางเกาะถนน แต่จะทำให้ยางสึกหรออย่างรวดเร็ว เกิดอุณหภูมิสูงที่แก้มยางจนอาจเสี่ยงต่อการระเบิด

ใช้ความเร็วที่เหมาะสม ระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น อย่าลืมว่าความเร็วที่เกินจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้หลายทาง ระยะเบรกเพิ่มมากขึ้น และอาจเกิดอาการลื่นไถลระหว่างการเบรก

ทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้มากกว่าเดิม คำนวณระยะหยุดของรถให้ถูกต้อง โดยมีน้ำและอาการลื่นไถลเป็นตัวแปร ถือหลักการปลอดภัยไว้ก่อนทุกครั้ง

หลีกเลี่ยงการแซง ถ้าไม่จำเป็น และถ้าไม่แซง ก็ต้องเปิดทางให้รถที่เร็วกว่าแซงผ่านขึ้นไป 

การใช้เบรกที่ชำนาญและถูกต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ จะช่วยทำให้คุณปลอดภัยจากอุบัติเหตุขณะฝนตก

ระมัดระวังน้ำที่จะกระเด็นไปถูกคนเดินเท้า เข้าใจและเห็นใจผู้คนรอบข้างที่ใช้ถนนร่วมกัน.

ผู้เขียน : อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/