พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระพิมพ์ยอดนิยมของเมืองสุพรรณบุรี




พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ของสถิต ราชบุรี.

อาทิตย์นี้ สนามพระวิภาวดี ของท่านผู้ชม ก็ยังอยู่ในบรรยากาศ ส่งท้าย วันแม่ ตามห้างร้านรวง ก็จะเห็นภาพน่ารักของแม่ๆและลูกหลาน ที่ไปกินไปเที่ยวกันพร้อมเพรียง หลายครอบครัวก็มีประเพณีวันแม่ กราบแม่ ซึ่งเป็น “พระในบ้าน” กัน

สำหรับเราชาวพระ ขอเริ่มด้วย พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าแก่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี พระพิมพ์ยอดนิยมหมายเลข ๑ ของเมืองสุพรรณบุรี พุทธศิลป์แห่งยุคอู่ทอง ที่ได้รับคัดเลือกเป็น ๑ ใน ๕ พระของแผ่นดิน ชุดเบญจภาคี และเป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผาหนึ่งเดียว ที่ค้นพบบรรจุอยู่รวมกับพระพิมพ์เนื้อโลหะ ที่มีพุทธศิลป์สมัยต่างๆ ทั้งสุโขทัย อู่ทอง ลพบุรี (พระร่วมบรรจุมีจำนวนเล็กน้อย) อาทิ พระกำแพงศอก กำแพงนิ้วพระมเหศวร พระปทุมมาศ พระนาคปรก พระสุพรรณยอดโถ และอื่นๆ

เปิดกรุอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๖ คราว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองสุพรรณ มีพิมพ์พระแยกเป็นพิมพ์หน้าแก่ หน้ากลาง หน้าหนุ่ม 

ที่เปิดกรุเพราะก่อนหน้านั้น มีการลักลอบขุดกรุ นำสมบัติล้ำค่าออกจากกรุ โดยไม่สนบรรดาพระพิมพ์ พระเครื่องพระบูชา เจ้าเมือง อี้ กรรณสูต จึงให้มีการเปิดกรุ ได้พบพระบูชาพระเครื่อง มากแบบบรรจุรวมอยู่เป็นจำนวนมาก

และพบใบลานทอง บอกประวัติผู้สร้างวัด กับองค์พระปรางค์ คือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง หรือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑–ส่วนพระที่บรรจุบอกวิธีใช้บูชา และอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งระบุผู้สร้างคือ พระมหาเถระปิยะทัสสี ศรีสารีบุตร

เนื้อพระผงสุพรรณ สร้างจากนำผงเกสรดอกไม้ ว่านยา นานาชนิด มาตากแห้งแล้วป่นละเอียด ผสมดินกรองละเอียด และใช้น้ำผึ้งเป็นตัวประสานให้เข้าเนื้อเป็นเนื้อเดียวกัน จึงนำมากดพิมพ์ เป็นองค์พระ และปลุกเสกโดยพระฤๅษี ๔ ตน

พระเป็นทรงสามเหลี่ยม ตัดยอดด้านหลัง มีรอยประทับลายนิ้วหัวแม่มือ ทั้งแบบลายก้นหอยและมัดหวาย เนื้อพระมีสีเหลือง สีแดง สีเขียว และสีดำขอบข้างเป็นรอยตัดตอก มีราดำจับผิวและว่านดอกมะขามเกิดเป็นจุดในเนื้อทั่วองค์

ผู้ใดพบเจอให้บูชาอาราธนาด้วยบทสวดพาหุงฯ กฤษณาน้ำมันหอม จะพบอานุภาพ อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุด

องค์นี้ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี ซึ่งเป็นพระพิมพ์นิยมสุด สีเนื้อมาตรฐาน จุดพิจารณาทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อมวลสารสภาพคราบกรุ รอยลายนิ้วมือ ชัดแจ่ม ครบเครื่อง เป็นพระแท้ดูง่าย ระดับพรีเมียมที่หายากมากๆในปัจจุบัน นานทีจะมีออกมาให้ได้ชม

พระกริ่งหน้าไทย พ.ศ.๒๔๘๒ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสสฺเทโว) วัดสุทัศน์ ของเอ ๙๙.

องค์ที่สอง เป็น พระกริ่งหน้าไทย พ.ศ.๒๔๘๒ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ สร้างขณะดำรงฐานาสมณศักดิ์ สมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๒

ขณะนั้นกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน บ้านเมืองกำลังเครียดจากสงครามโลก เพราะไทยประกาศร่วมสงครามปี พ.ศ.๒๔๘๓ ด้วย

ประชาชนก็หวั่นภัยสงคราม คณะศิษย์ในองค์สมเด็จฯ นำโดยพระอาจารย์แสวง วัดสระเกศ พระชัยปัญญา อธิบดีศาลอาญา พระราชอากร อธิบดีกรมสรรพากร ในขณะนั้น จึงคิดสร้างพระ เพื่อบำรุงขวัญ

เมื่อนำความกราบทูลท่านเจ้า ประคุณสมเด็จ และกราบอาราธนาทูลเชิญนิมนต์ท่านเป็นประธานการสร้างที่วัดสระเกศฯ ท่านรับสั่งถามว่า “ทำพิธีสร้างที่วัดฉันไม่เหมาะกว่าหรือ” คณะกรรมการเห็นเป็นโอกาสจึงกราบขอสร้างพระกริ่งที่วัดสุทัศน์ ท่านก็อนุญาต และให้ อ.นิรันดร์ ตามท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี มารับมอบหน้าที่เป็นแม่งานพิธี

โดยออกแบบเป็นองค์พระนั่งปางสมาธิ เหนือฐานบัวคว่ำ-หงาย ๗ คู่ พระหัตถ์ถือหม้อน้ำมนต์ เททองแบบกริ่งในตัว พิมพ์พระมี 2 แบบ เรียกว่าพิมพ์เล็กกับพิมพ์ใหญ่

และยังมีสร้างเป็นพิมพ์พิเศษ มีขนาดใหญ่กว่าทั้ง 2 พิมพ์ ใต้ฐานมีจุดสังเกตเป็นอักขระตัวนะโภคทรัพย์หล่อลึกเข้าในเนื้อ จำนวนการสร้าง พระกริ่งหน้าอินเดีย ใหญ่-เล็ก ๔,๐๐๐ องค์ พระกริ่งนะโภคทรัพย์ ๔๐๐ องค์

เนื้อพระเป็นโลหะผสม มีเนื้อทองลำอู่เป็นหลัก ประกอบด้วยแผ่นยันต์ ๑๐๘ นะ ๑๔ หลอมรวมกับเงินพดด้วงตรายันต์ และตราราชวัตร องค์ละ ๑ เม็ด

กำหนดพิธีงานวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๔๘๒ ณ พระอุโบสถ วัดสุทัศน์ เจ้าประคุณสมเด็จ ทรงเป็นประธานเททองด้วยพระองค์เอง เมื่อเสร็จพิธีสมเด็จท่านเห็นทุกคนที่ร่วมงานเหน็ดเหนื่อย จึงทรงให้ท่านเจ้าคุณศรีฯ นำทองชนวน ที่มีเหลืออยู่มากไปจัดสร้างพระกริ่ง เพื่อประทานเป็นรางวัลผู้ช่วยงาน

ท่านเจ้าคุณศรีฯ จึงได้ทูลขออนุญาตจัดสร้างในงานวันฉลองพระชนม์ ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จ ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๖ พ.ย.๒๔๘๒ เป็น พระกริ่งหน้าไทย ด้วยเนื้อโลหะผสมภายในสีเหลืองแกมขาว ผิวกลับเป็นสีน้ำตาล ๕๐๐ องค์ พระชัยวัฒน์น้ำเต้าเอียง และน้ำเต้าตรงรวม ๒,๐๐๐ องค์–องค์นี้ของแฟนคลับ ใช้ชื่อว่า เอ ๙๙ เป็นพระกริ่งหน้าไทย สภาพสมบูรณ์สวยเดิมๆ

พระปิดตา พิมพ์จิ๋ว เนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก หลวงพ่อแก้ว วัด เครือวัลย์ ของกำนันมานะ คงวุฒิปัญญา.

รายการที่สาม เป็น พระปิดตาพิมพ์จิ๋ว เนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ อ.เมืองชลบุรี ๑ ในพระปิดตาพิมพ์มาตรฐาน ได้รับความนิยมสูงในสกุล “พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว” ที่กล่าวได้ว่าเป็นพิมพ์ที่มีพบน้อยหายากที่สุดในสกุล

จากอดีตถึงปัจจุบันพบพระแท้ องค์จริง ปรากฏเป็นที่ยอมรับในวงการไม่ถึง ๑๐ องค์ องค์นี้ของ กำนันมานะคงวุฒิปัญญา เป็น ๑ ในจำนวนนั้น ที่มีพิมพ์พระชัดเจนถูกต้องตามมาตรฐาน เนื้อพระครบสูตร–พระมีรักเคลือบ บอกอายุความเก่าเก๋าจริงแบบนี้ สายตรงเห็นแล้วยกนิ้วบอกราคาน้องๆพิมพ์ใหญ่หลังแบบทีเดียว

พระรูปเหมือน หล่อโบราณ พิมพ์ขี้ตา หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ของไพโรจน์ ธีระธำรงค์ชัยกุล.

อีกสำนักเป็น พระรูปเหมือนหล่อโบราณ พิมพ์ขี้ตา หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งครองอันดับพระรูปเหมือนพระเกจิ อาจารย์ยอดนิยมอมตะ

จัดสร้างโดยวิธีเทหล่อด้วยพิมพ์ประกบแบบโบราณ เป็นเนื้อโลหะผสม ประกอบพิธีเทหล่อที่วัดบางคลาน โดยให้สาธุชนนำเนื้อโลหะทอง นาก เงิน เข้าร่วมหลอมและเทหล่อเป็นเนื้อพระ พร้อมเหรียญหล่อจอบเล็ก โดยหลวงพ่อเป็นประธานในพิธี

ปัจจุบันเป็นรูปเหมือนพระเกจิฯอันดับ ๑ องค์งามๆ ดูง่ายๆ สภาพสมบูรณ์เดิมๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยไพ โรจน์ ธีระธำรงค์ชัยกุล เคยมีราคาสูงเหยียบสิบล้านมาแล้วนะ จะบอกให้

พระนางพญา กรุโรงทอ พิมพ์มีหู วัดโพธิ์ ของไก่ พิษณุโลก.

ถัดไป เป็น พระนางพญา กรุโรงทอ พิมพ์ใหญ่ (มีหู) วัดโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก อีกหนึ่งพระพิมพ์เนื้อดินเผา พุทธศิลป์สมัยอยุธยา รูปทรงสามเหลี่ยม ที่ได้รับความนิยมเล่นหาเป็น “พระนางพญา”

เพราะเชื่อกันว่าเป็นพระที่สร้างร่วมยุคสมัย โดยผู้สร้างเดียวกัน ซึ่งพิจารณาจากพิมพ์พระ ที่มีลักษณะคล้ายกับพระกรุวัดนางพญา โดยเฉพาะพิมพ์สังฆาฏิ ค้นพบในกรุพระเมืองพิษณุโลกเหมือนกัน 

แม้เวลาจะต่างกัน แต่ก็ได้รับความนิยมใช้บูชาแทนกัน เพราะมีประสบการณ์ อานุภาพความศักดิ์สิทธ์ ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยมโชคลาภ เด่นชัดเหมือนกัน แต่ราคาค่าความนิยมยังไล่หลัง ห่างพอสมควร

องค์งามเยี่ยมสม บูรณ์ยอด อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยไก่ พิษณุโลก อยู่ที่หลักแสนต้นๆเท่านั้น และรับรองได้ว่าจะไปไกลกว่านี้ เพราะข้าพเจ้ารายงานความเคลื่อนไหววงการพระมาปีที่ ๒๕ เข้านี่แล้ว ไม่เคยเห็นพระลดราคา มีแต่ขึ้น–และน่าจะเป็นของซื้อของขาย ที่สามารถขึ้นราคาแบบไม่มีเหตุผลเพราะเหตุผลเดียวคือ ถ้าชอบ ก็ยอมจ่าย

เหรียญระฆัง เนื้อเงิน พ.ศ.๒๕๑๖ หลวงพ่อเกษม สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ ของคู่หู ดลกับปอนด์.

อีกรายการเป็น เหรียญระฆัง เนื้อเงิน พ.ศ.๒๕๑๖ หลวงพ่อเกษมเขมโก สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง เหรียญรูปเหมือนที่สร้างชื่อเสียงหลวงพ่อเกษม เป็นที่รู้จักแพร่หลายสูงสุด ครั้งเหตุการณ์วันมหาวิปโยค ๑๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๖ ที่นักศึกษาประชาชนรวมตัวชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ขับไล่รัฐบาลทหาร มีการปราบปรามผู้ชุมนุมด้วยอาวุธสงคราม

หนึ่งในนั้นมีข่าว “ไอ้ก้านยาว” เป็นนักศึกษายืนถือไม้หน้าสามเงื้อสูงต่อสู้อยู่หน้ารถถัง โดยมีทหารอารักขายิงปืนสวนแต่ปรากฏว่ากระสุนไม่โดนนักศึกษาคนนั้นแม้แต่นัดเดียว ภายหลังมีการเปิดเผยเป็นข่าวว่า เขาเป็นชาวเหนือ ในคอคล้องเหรียญหลวงพ่อเกษมรุ่นระฆัง อยู่เหรียญเดียว ซึ่งในเวลาต่อมาได้รับความนิยมเป็นเหรียญพระเกจิฯแห่งยุค เรียกกันว่า เหรียญ M ๑๖ ในภาพนี้เป็นเหรียญเนื้อเงิน สภาพสวยแชมป์ ของ คู่หู ดลกับปอนด์

หัวใจราชสีห์ งาแกะ พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม พุทธสโร) วัดหนองโพ ของเพชร อิทธิ.

วันนี้มีเครื่องรางชั้นเยี่ยมมาให้ดู คือ หัวใจราชสีห์ งาแกะ พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม พุทธสโร) วัดหนองโพ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เป็นเครื่องรางงาช้างแกะ ฝีมือช่างเมืองปากน้ำโพ ที่หลวงพ่อเดิม ท่านสร้างออกเป็นเครื่องราง ที่มีเอกลักษณ์ท่วงท่าลีลาลวดลายในตัวสิงห์ เป็นแบบที่เรียกว่าสิงห์สามขวัญเหมือนกัน

แต่มีความแตกต่างหลากหลายที่กรอบทรง ซึ่งมีทั้งที่เป็นตัวสิงห์เพียวๆ ไร้กรอบครอบคลุม (พบมีมากสุด) แบบกรอบสี่เหลี่ยม แบบกรอบรูปหัวใจ อย่างในภาพนี้ ของ เสี่ยเพชร อิทธิ ซึ่งมีความงดงามละเมียดละไมด้วยศิลปะฝีมือช่างอย่างสูง และเชื่อกันว่าเป็นรูปแบบสิงห์ ที่มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมสูงตรงสเปก ความนิยมในยุคปัจจุบัน–ทำให้ต้องสู้ราคาสูงถึง 3 แสนเชียว

นิตยสารสปิริต คละเล่ม ของวัดเทวราชฯ.

สุดท้าย เป็นรายการสร้างกุศล เนื่องใน วันแม่ มาบอกกล่าวแฟนคลับที่อยากได้ หนังสือพระเครื่อง ดีๆมีเรื่องราวมาตรฐาน

เพราะ บริษัทสปิริต อาร์ท ๒๐๑๑ ซึ่ง ครบปีที่ ๙ ได้จัดกิจกรรมพิเศษ โดยนำหนังสือ สปิริต อาร์ท แอนด์ แอนติค ซึ่งจัดพิมพ์เมื่อสิบกว่าปีก่อน และยังเก็บรักษาไว้ไม่มาก ไปถวาย ท่านเจ้าคุณพระเทพคุณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรฯ เพื่อสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทำบุญกับวัด

หนังสือชุดนี้มี ๑๐ เล่ม บรรจุกล่องแข็ง (คละเล่ม ตามสภาพ) เดิมจำหน่ายชุดละ ๒,๐๐๐ (เล่มละ ๑๙๙ บาท)

ถ้าใครเคยเป็นสมาชิกจะทราบว่ารูปและเรื่องราวในเล่มนี้ ได้สร้างความฮือฮาให้วงการพระมาตลอด เพราะสามารถนำพระในคอลเลกชันนักสะสมระดับประเทศ พระ ๕ ดาว มาตีพิมพ์ ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะได้รับอนุญาตจากท่านเจ้าของพระแต่ละท่าน

หลังเลิกพิมพ์ก็มีคนถามหามากมาย วันนี้จึงเป็นโอกาสที่จะได้ หนังสือดี เก่าเก็บ หายาก ไปใช้ศึกษาค้นคว้า

ใครอยากได้รีบเลย กติกาคือ โอนเงินทำบุญตรง ไปที่วัดเทวราชฯ แล้วนำสลิป ไปรับหนังสือ (หนักแอ้ก) แต่สอบถามวัดก่อนโอน ว่าหนังสือยังเหลือหรือไม่ เพราะในโลกนี้เหลืออีกเพียง ๓๐ ชุดเท่านั้น–เคยเห็นตามร้านหนังสือเก่า ขายกันเล่มละ ๓๐๐

บัญชี วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศร์ เลขที่ 020-282041-8 ซึ่งบริษัทสปิริตฯ กำหนดราคาขั้นต่ำไว้เพียงชุดละ ๙๙๙ บาทเท่านั้น ส่วนใครจะสมทบมากกว่า ก็จะเป็นกุศลต่อท่านและครอบครัว หรือใครจะเหมาหมด ก็ไม่ถึง ๓ หมื่นบาท เอาไว้ให้ ใครๆก็ดีใจ เพราะหา ไม่ได้อีกแล้ว

มาถึงเรื่องปิดท้ายสไตล์ สนามพระ วันนี้ แฟนคลับเล่ามาว่า ตอนวันเข้าพรรษา เป็นวันหยุดยาว นายธีระ เจ้าของร้านขายอุปกรณ์การเล่นพระ มีครบทั้งกรอบพระ สร้อยคล้องพระ กล่องใส่พระ ร้านอยู่ในตลาดย่านพุทธมณฑล เห็นเป็นโอกาสจะพาลูกสาววัยใกล้ ๓ ขวบ ไปทำบุญที่วัด

ก่อนพาไปต้องขออนุญาตปู่ย่าอยู่นาน เพราะเป็นหลานหัวแก้วหัวแหวน เป็นที่รักที่หลงของสมาชิกในบ้าน โดยเฉพาะปู่ย่า เพราะเป็นเด็กน่ารักตัวกลม อ้วนตุ้ย พูดเก่ง พูดคุยกับปู่ย่าได้ทั้งวัน

ก่อนไปปู่ย่าบอกกับหลานว่าไปวัดทำบุญ ได้พบเจออะไรจำเอามาเล่าให้ปู่ย่าฟังด้วยนะ ปู่ย่าจะได้บุญด้วย

พอกลับถึงบ้าน หลานสาวลงรถ ก็วิ่งแจ้นไปหาปู่ย่าที่รอรับ พอเห็นหลานก็ยิ้มรับ ถามเป็นไงลูกไปวัดได้ทำอะไรบ้าง หลานก็ตอบเสียงแจ้วๆว่า ได้ไหว้พระ

ปู่ก็ถามว่า พระแก่หรือพระหนุ่ม แต่งตัวยังไง พระให้พรว่าไงมั่ง หลานตอบว่า พระรูปปั้น ไม่ได้ให้พรอะไร พระยืนพนมมือเฉยๆ ปู่ฟังแล้วคิดว่า อ๋อ คงเป็นพระพุทธรูป จึงถามต่อ ว่าพระแต่งตัวยังไง แต่หลานบอก พระไม่ได้นุ่งผ้า ยืนพนมมือเห็นไอ้จู๋เลย

ย่าฟังถึงตรงนี้ ก็ตกใจตบอก หันไปถามลูกชายที่เดินตามมาว่า แกพาลูกไปไหว้พระอะไร พระทำไมไม่นุ่งผ้า นายธีระ หัวเราะลั่น บอกว่า อ๋อ เป็นพระไอ้ไข่ ที่วัดเอามาตั้งให้คนไหว้ขอโชคลาภ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง