MINI Concept Aceman ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าต้นแบบแนวคิดที่แสดงให้เห็นว่า แบรนด์รถวัยรุ่นอย่าง MINI กำลังจินตนาการไปถึงโมเดลยานยนต์อนาคตอย่างไร สำหรับรูปลักษณ์ของ Countryman EV รุ่นใหม่คันนี้ จะโผล่ออกมาในช่วงกลางปี 2023 หรืออาจล่าช้าไปจนถึง 2024 เพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่าง Cooper SE ด้วยรถ Countryman Electric
MINI ไม่ได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับระบบส่งกำลังของ Aceman แต่ยังคงให้ความสำคัญกับการออกแบบและเทคโนโลยีซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ตัวถังสี Icy Sunglow Green โทนสีน้ำเงินหลังคาสีเขียว British Racing Green ซึ่งเป็นโทนสีสไตล์คลาสสิกของ MINI มานานกว่า 50 ปีแล้ว Aceman คือการแสดงออกด้านงานดีไซน์ Charismatic Simplicity แบบใหม่ของ Mini เป้าหมายของรูปลักษณ์ก็คือ การผสมผสานความเรียบง่ายเข้ากับความยั่งยืนของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า รูปทรงกล่องแบบคลาสสิก ล้ออยู่ที่มุมเพื่อลดระยะโอเวอร์แฮงค์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
Aceman Concept ครอสโอเวอร์ไฟฟ้ามีความยาว 4,005 มิลลิเมตร กว้างถึง 1,990 มิลลิเมตร เปรียบเทียบกับมิติตัวถังของ Mini Countryman รุ่นปัจจุบัน ซึ่งมีความยาว 4,310 มิลลิเมตรเมตร กว้าง 2,000 มิลลิเมตร เมื่อวัดจากขอบของกระจกมองข้างจากซ้ายไปขวา ด้านหน้าของ Aceman มีวิวัฒนาการจากรูปลักษณ์รุ่นปัจจุบันของ MINI เนื่องจากเป็นยานยนต์ EV จึงไม่จำเป็นต้องมีกระจังหน้าขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อน ไฟหน้า LED ที่แสดงแนวทางการออกแบบสไตล์ Union Jack มีการเน้นสีเขียวเพื่อความสดใส ในขณะที่ MINI Cooper โฉมปัจจุบันยังใช้ไฟหน้าทรงกลม แต่ Aceman ซึ่งเป็นตัวแทนของ Countryman ในอนาคต โดยมีการออกแบบไฟหน้าให้มีรูปลักษณ์ที่เป็นมุมมากขึ้น ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าต้นแบบมาพร้อมไฟ LED แบบเมทริกซ์ที่ด้านหน้าและด้านหลัง จากแนวทางของการออกแบบ “Charismic Simplicity” โดยไม่มีองค์ประกอบของพลาสติกโครเมียมแบบเดิมอีกต่อไป ไฟเลี้ยววิ่งรอบโคมไฟและมีไฟ Daytime Running Light LED อยู่ข้างใน แร็คหลังคาทรงยูเนี่ยนแจ็คสีบรอนซ์ติดกับด้านบนของรถ Aceman ยังยัดล้อขอบ 20 นิ้ว ซี่ล้อทั้งห้าโค้งเข้าด้านใน สร้างเอฟเฟกต์ที่แปลกตา ด้านหลังติดตั้งสปอยเลอร์สีดำที่อยู่เหนือกระจกบานฝาท้ายด้านหลังคล้ายกับรถแฮทช์แบค ไฟท้ายมีลักษณะเดียวกับธงยูเนี่ยนแจ็คและเหมือนกับโคมไฟหน้า อย่าลืมว่านี่คือรถต้นแบบสำหรับการโชว์ ซึ่งจะต้องทำออกมาให้มีสไตล์ที่ฉูดฉาดมากกว่ารถรุ่นผลิตจริง
รูปลักษณ์ที่สว่างแต่เรียบง่ายขยายไปถึงห้องโดยสาร สังเกตจากมินิรุ่นดั้งเดิม จอแสดงผลทรงกลมที่ตรงกลางแดชบอร์ดจะจัดการกับเครื่องมือต่างๆ และยังทำหน้าที่เป็นหน้าจอสาระบันเทิงอีกด้วย แถวของสวิตช์ที่อยู่ใต้จอภาพประกอบด้วยสวิตช์เบรกจอดรถ ตัวเลือกเกียร์ เลือกโหมดการขับ และปรับระดับเสียง การตกแต่งภายในเน้นความสดใสเหมือนเดิม จอแสดงผล OLED ขนาดใหญ่อยู่ตรงกึ่งกลาง มีแถบสวิตช์สลับด้านล่างเพื่อปรับแต่งเครื่องเสียง ปุ่มเบรกมือไฟฟ้า ปุ่มเลือกตำแหน่งเกียร์ และปุ่มปรับโหมดสามระดับ หน้าจอขนาดใหญ่ของระบบ Infotainment ทำงานบนซอฟต์แวร์ Android Open Source Project (AOSP) โดย MINI ได้รวมแท่นชาร์จแบบไร้สายเข้ากับคอนโซลกลางสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อีกตะหาก
Aceman จะเปิดตัวต่อสาธารณชนที่ Gamescon ในเมืองโคโลญประเทศเยอรมนีระหว่างวันที่ 23-28 สิงหาคม 2565 เวอร์ชันผลิตจริงจะตามออกมาในภายหลัง ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงกลางปีหน้า หรือล่าช้าไปจนถึงปี 2024 และจะผลิตในประเทศจีน ตามแผนงานร่วมทุนแบบคนละครึ่งหรือ 50:50 ระหว่าง BMW Group กับ Great Wall Motor ซึ่งเคยประกาศในช่วงปลายปี 2019 โครงการ Spotlight Automotive หรือการควบรวมกิจการระหว่างทั้งสองแบรนด์ จะสร้างงาน 3,000 ตำแหน่ง หลังจากการลงทุนประมาณ 650 ล้านยูโร ซึ่งรวมถึงโรงงานแห่งใหม่ในเมืองจางเจียกัง ด้วยกำลังการผลิตรถยนต์ MINI สูงสุด 160,000 คันต่อปี.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/