คาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัทนิสสัน ซึ่งเคยขับเคลื่อนแนวคิดเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ให้กับกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าที่เขาเคยเซ็นอนุมัติเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากการหลบหนีคดีความเกี่ยวกับการทุจริตด้วยการแอบซ่อนในกล่องอุปกรณ์ดนตรี กอส์น ได้ออกมากล่าวว่า จนถึงขณะนี้ เป็นเวลาที่นิสสันต้องทุ่มเทให้กับยานยนต์ Electric และด้วยเหตุนี้เอง เขาได้สังเกตเห็นการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับแนวทางของนิสสันในเรื่องนี้
ตามรายงานของ Automotive News คาร์ลอส กอส์น กล่าวว่า ผู้เล่นใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง Tesla และผู้ท้าชิงซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟ้าของจีนอีกจำนวนหนึ่ง ได้พัฒนาความได้เปรียบเหนือบริษัทรถยนต์รายใหญ่ ในด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้า คาร์ลอส กอส์น เตือนว่าบริษัทรุ่นเก่าอย่าง นิสสัน มอเตอร์ จะต้องเป็นค่ายผู้ผลิตที่สามารถแข่งขันด้านยานยนต์ไฟฟ้าได้เร็วกว่านี้ ท่ามกลางวิสัยทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า
“ความเร็วของการเปลี่ยนแปลงระบบขับเคลื่อนใหม่ การผลิตรถไฟฟ้าที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพด้านระยะทาง จะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะ” กอส์น กล่าวในการแถลงข่าวออนไลน์ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อสองปีที่ผ่านมา คาร์ลอส กอส์น ประธานบริหารค่ายนิสสัน ถูกขับออกจากตำแหน่งจากข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริต ได้พูดถึงการเปิดตัวหนังสือเล่มล่าสุดของเขาในฉบับแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น
คาร์ลอส กอส์น สตรีมมาจากบ้านของเขาในเบรุต ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นพื้นที่หลบภัยและอาศัยอยู่อย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้ลี้ภัยระดับชาติ หลังจากเรื่องอื้อฉาวของกอส์น ขณะดำรงตำแหน่งประธานบริหารกลุ่มเรโนลต์ และถูกฟ้องร้องในญี่ปุ่นถึงสี่คดี ในข้อหาประพฤติมิชอบทางการเงิน และหลบหนีออกนอกประเทศโดยซ่อนตัวอยู่ในอุปกรณ์ดนตรีขนาดใหญ่เมื่อสองปีที่ผ่านมา
คาร์ลอส กอส์น ที่พยายามรักษาความบริสุทธิ์ กล่าวว่า แนวโน้มของรถยนต์ไฟฟ้าที่เราเห็นนั้น บ่งบอกถึงความปรารถนาแรกเริ่มของเขาในการทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นยานยนต์กระแสหลัก ด้วยการเปิดตัว Nissan Leaf ในปี 2010 นิสสัน มอเตอร์ วางแผนที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้จำนวนหลายแสนคันในช่วงปีถัดมา แต่ความต้องการของอดีตประธานบริหารสูงสุดของนิสสันไม่เคยเกิดขึ้นจริง
“ตอนที่ผมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในตลาดโลก” กอส์นเล่า “อย่างที่คุณรู้ ทุกคนหัวเราะเยาะเรา คุณรู้ไหม พวกคุณหลงทาง” แต่ตอนนี้ ทุกอย่างของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังมุ่งไปที่พลังงานไฟฟ้า ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น เข้าร่วมการแข่งขัน และทุ่มเงินหลายแสนล้านดอลลาร์สำหรับการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแบรนด์คู่แข่ง
“ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังเคลื่อนไหวอย่างกระฉับกระเฉง ด้วยจำนวนเงินลงทุนมหาศาล ด้วยความเร็วที่เหมาะสม เรากำลังจะใช้ไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ในการขับเคลื่อนรถยนต์ หลังจากพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยมลภาวะมานานกว่าร้อยปี” กอส์นกล่าว โดยชี้ไปที่มูลค่าตลาดของเทสลา ซึ่งพุ่งขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ “ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังบอกคุณว่า เรากำลังจะเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาปอย่างสมบูรณ์ในเร็ววันนี้”
Ghosn กล่าวว่า เขาทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านยานยนต์ไฟฟ้าให้กับเลบานอน และเสริมว่า บริษัทผลิตรถยนต์ของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกือบจะทุกบริษัท กำลังใส่เงินทุนเพื่อการเดิมพันครั้งมหาศาล ในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า EV เนื่องจากจีน เพิ่งจะเริ่มต้นออกเดินทางในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนอย่างหนักหน่วงกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เพื่อแข่งขันกับแบรนด์เก่าซึ่งเป็นที่ยอมรับมากกว่า อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของจีนมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และก้าวรุดหน้าขึ้นเรื่อยๆ
มุมมองที่เป็นบวกของ กอส์น เกิดขึ้นหลังจาก นิสสัน มอเตอร์ เปิดเผยแผนงานที่จะใช้จ่ายเงินเกือบ 18 พันล้านดอลลาร์ เพื่อผลิตรถไฟฟ้าประมาณ 50% จากปริมาณยอดขายทั่วโลกภายในปี 2030 กอส์น กล่าวว่า อัตราการเติบโตดังกล่าว ช้าเกินไปเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ
“พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่แย่มากในการแข่งขันครั้งนี้” คาร์ลอส กอส์น กล่าวถึง นิสสัน มอเตอร์ “ผู้บริหารระดับสูงของนิสสันยังไม่มีวิสัยทัศน์มากพอ พวกเขาไม่รู้ว่ากำลังจะไปทางไหนดี พวกเขายังไม่มีมุมมองในอนาคต เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้น”.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/